ทุกคนกำลัง รู้สึกประหม่า เส้นทางสู่แชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ ลิเวอร์พูล

การแข่งขันชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย และนี่คือช่วงเวลาที่ความประหม่าเริ่มปรากฏให้เห็น เมื่อ ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เสียงเฮที่ แอนฟิลด์ ดังกึกก้องด้วยความโล่งอกมากกว่าความยินดี เดอะ เรดส์  ไม่สามารถทำประตูได้ในครึ่งหลัง แต่ก็ทำได้เพียงพอที่จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงด้วยการนำ 7 คะแนนเหนือทีมอันดับสอง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (Andy Robertson) แบ็คซ้ายของ ลิเวอร์พูล ยอมรับหลังเกมชนะ วูล์ฟส์ ว่า "ทุกคนรู้สึกประหม่า นักเตะก็ประหม่า แฟนบอลก็ประหม่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เราผ่านอีกหนึ่งเกมไปได้แล้ว ผลการแข่งขันนี้สำคัญมาก"

หงส์แดง กับปรากฏการณ์ ครึ่งหลัง โอกาสยิง เป็น ศูนย์  แต่ยังคว้าชัยได้สำเร็จ

ผลงานของ ลิเวอร์พูล ในเกมกับ วูล์ฟส์ ไม่ได้น่าตื่นเต้นนัก พวกเขาทำผลงานได้ดีในครึ่งแรกด้วยการนำ 2-0 จากประตูของ หลุยส์ ดิอาซ (Luis Diaz) และจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) แต่ในครึ่งหลัง วูล์ฟส์ กลับเป็นฝ่ายที่เล่นได้ดีกว่า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04 ที่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถยิงประตูได้เลยในครึ่งหลังของเกม พรีเมียร์ลีก ที่ แอนฟิลด์ ตามสถิติของ Opta 

อาร์เน่ สล็อต (Arne Slot) ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล พอใจที่เห็นทีมของเขาสามารถเอาชนะได้ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เขากล่าวกับ BBC Match of the Day ว่า "เราต้องแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แตกต่าง sbobet beer777 ซึ่งเราก็ทำได้และพาทีมผ่านพ้นไปได้" ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Opta ทำนายว่า ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างสบายๆ โดยจะจบฤดูกาลด้วย 87 คะแนน นำ อาร์เซนอล 7 คะแนน  sbobet beer777 นักสถิติให้โอกาส ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ 87.65% ขณะที่ "เดอะ กันเนอร์ส" มีโอกาส 12.35% ส่วนทีมอื่นๆ มีโอกาส 0% ในการจบอันดับหนึ่ง เหลือการแข่งขันอีก 13 นัด ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งและความนำห่าง 7 คะแนน ลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ทีมเล่นไม่ดีในบางเกม แต่ความสามารถในการเก็บ 3 คะแนนแม้ในวันที่เล่นไม่ดี แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมในฤดูกาลนี้ ในขณะที่ อาร์เซนอล ยังคงไล่ล่าอย่างไม่ลดละ แต่ด้วยจำนวนเกมที่เหลือและคะแนนที่ตามหลัง ทำให้พวกเขาต้องหวังให้ ลิเวอร์พูล พลาดท่าในหลายเกมเพื่อที่จะมีโอกาสแซงขึ้นไปคว้าแชมป์ การแข่งขันที่เหลือจะเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับทั้งสองทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายที่ความกดดันและความคาดหวังจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล จะต้องรักษามาตรฐานการเล่นและจัดการกับความกดดันให้ได้เพื่อโอกาสในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

การแข่งขันที่เหลือของ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ในฤดูกาล 2024/25

โปรแกรมการแข่งขันที่เหลือของ ลิเวอร์พูล ผลงาน 5 นัดล่าสุดของ ลิเวอร์พูล ชนะ-ชนะ-ชนะ-เสมอ-ชนะ

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ถือว่าเป็นช่วงที่ยุ่งมากสำหรับ ลิเวอร์พูล โดยทีม "หงส์แดง" มีโปรแกรมการแข่งขันในลีกเกือบทุก 3 วันไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ แต่ในเดือนมีนาคม ตารางการแข่งขันจะเบาลงอย่างมาก โดย ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมการแข่งขันในลีกเพียงนัดเดียว คือเกมเหย้าที่จะพบกับทีมอันดับสุดท้ายอย่าง เซาแธมป์ตัน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเดือนที่เงียบเหงา เพราะ ลิเวอร์พูล มีนัดสำคัญในการแข่งขัน อีเอฟแอล คัพ รอบชิงชนะเลิศ พบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในวันที่ 16 มีนาคม

นอกจากนี้ ในวันที่ 4 หรือ 5 มีนาคม ลิเวอร์พูล จะลงเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก โดยจะต้องเดินทางไปเยือนหนึ่งในทีมต่อไปนี้: ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เบนฟิก้า, โมนาโก หรือ เบรสต์ ส่วนนัดที่สองจะเล่นที่สนาม แอนฟิลด์ หนึ่งสัปดาห์ถัดไป ลิเวอร์พูล จะปิดฤดูกาลด้วยการเล่นในบ้านพบกับ คริสตัล พาเลซ ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์ลีกได้ก่อนถึงเกมนี้

โปรแกรมการแข่งขันที่เหลือของ อาร์เซนอล ผลงาน 5 นัดล่าสุดของ อาร์เซนอล ชนะ-เสมอ-ชนะ-ชนะ-ชนะ 

อาร์เซนอล ยังไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกัน 15 นัด (ชนะ 10 เสมอ 5) ซึ่งถือเป็นสถิติการไร้พ่ายที่ยาวนานที่สุดภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ในเดือนนี้ พวกเขามีโปรแกรมการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกน้อยกว่า ลิเวอร์พูล หนึ่งนัด แต่ในเดือนมีนาคมจะมีเกมมากกว่าหนึ่งนัด แฟนบอล "ปืนใหญ่" หวังว่าทีมของพวกเขาจะยังคงอยู่ในการลุ้นแชมป์เมื่อต้องบุกไปเยือน แอนฟิลด์ ในวันที่ 10 พฤษภาคม เพราะหากทำผลงานได้ดีในเกมนั้น จะเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับเกมเหย้าที่จะพบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเกมเยือน เซาแธมป์ตัน ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งในตอนนั้น เซาแธมป์ตัน อาจจะตกชั้นไปแล้ว